ปริ้นเตอร์
จัดทำโดย
นายเอกมนตรี กระดุมผล 6031280071
เครื่องพิมพ์ (Printer) แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้

2. เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Ink-Jet Printer) เครื่องพิมพ์พ่นหมึก สามารถพิมพ์ตัวอักษรที่มีรูปแบบและขนาดที่แตกต่างกันงานพิมพ์กราฟิกที่ให้ผลลัพธ์คมชัดมาก คุณภาพงานพิมพ์เป็นที่ยอมรับและการใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย เทคโนโลยีที่เครื่องพิมพ์พ่นหมึก ใช้ในการพิมพ์ก็คือจะเป็นการพ่นหมึกพิมพ์เป็นหยดๆ ลงบนกระดาษการใช้งาน เครื่องพิมพ์พ่นหมึกมีความเร็วในการพิมพ์ มีหน่วยวัดความเร็วเป็นในการ พิมพ์เป็น PPM (Page Per Minute) ซึ่งเร็วกว่าเครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์มาก สามารถพิมพ์ได้ ทั้งแนวตั้งที่เรียกว่า "พอร์ทเทรต" (Portrait) และแนวนอนที่เรียกว่า "แลนด์สเคป" (Landscape) โดยกระดาษจะถูกป้อนเข้าไปในเครื่องพิมพ์ที่ละแผ่นเหมือนเครื่องถ่ายเอกสาร แต่โดยทั่วไปมักมีขนาดไม่เกิน A3 สินค้าให้เลือกหลายรุ่นตามระดับราคาและฟังก์ชันที่ต้องการ

3. เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer) ลักษณะของเครื่องพิมพ์ประเภทนี้ใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสาร คือยิงเลเซอร์ไปสร้างภาพบนกระดาษในการสร้างรูปภาพหรือตัวอักษร ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาจะมีคุณภาพสูงมากกว่าเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก การใช้งานเหมาะสำหรับการพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพที่สูงมากสามารถพิมพ์ได้หลายร้อยหน้าต่อนาที ซึ่งเหมาะ กับงานในองค์กรขนาดใหญ่ หรืองานที่ต้องการความคมชัดและสวยงามมากกว่าการพิมพ์อิงค์เจ็ทโดยทั่วไป หน่วยวัดความเร็วของเครื่องพิมพ์เลเซอร์จะเป็น PPM เครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ก็จะมีทั้งเครื่องพิมพ์เลเซอร์แบบ ขวา-ดำ และเครื่องพิมพ์ เลเซอร์แบบสี

4. เครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์ (plotter) เป็นเครื่องพิมพ์ชนิดที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ ลงบนกระดาษที่ทำมาเฉพาะงาน พล็อตเตอร์ทำงานโดยใช้วิธีเลื่อนกระดาษ โดยสามารถใช้ปากกาได้ 6-8 สี ความเร็วในการทำงานของ พล็อตเตอร์มีหน่วยวัดเป็นนิ้วต่อวินาที (Inches Per Second : IPS) ซึ่งหมายถึงจำนวนนิ้วที่พล็อตเตอร์สามารถ เลื่อนปากกาไปบนกระดาษการใช้งานเหมาะสำหรับงานเกี่ยวกับการเขียนแบบทางวิศวกรรม และงานตกแต่งภายใน ใช้สำหรับวิศวกรรมและสถาปนิก งานพิมพ์ขนาดใหญ่มีหน้ากว้าง เหมาะสำหรับทำงานด้านป้ายหรือโฆษณา และเครื่องพิมพ์ประเภทนี้มีราคาแพงที่สุดในเครื่องพิมพ์ประเภทต่างๆ

5. เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน (Multifunction) เป็นเครื่องพิมพ์ออลอินวัน (All in one) นั่นก็เพราะว่าเป็นการผสมผสานฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์หลายๆส่วนในชุดเดียวกัน ซึ่งประกอบไปด้วย เครื่องปริ้นเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องแฟกซ์ และ เครื่องสแกนเนอร์ เป็นต้น สามารถ scan, copy หรือรับ-ส่งแฟ็กซ์ ได้ในตัวเอง ทำให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานที่ค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน แต่ละรุ่น อาจจะมีประส่วนประกอบแตกต่างกันออกไป เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน เหมาะใช้กับงานกับกลุ่มนักธุรกิจ ออฟฟิศ สถานประกอบต่างๆ เพราะสะดวก เรียบง่าย ไม่กินพื้นที่มากเกินไป สามารถใช้ทำงานได้หลายแบบในเครื่องเดียว ซึ่งเป็นที่นิยมไม่แพ้ เครื่องพิมพ์หัวเข็ม ที่ใช้กันในสำนักงานเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลัก ฉะนั้นการเลือกเครื่องปริ้นเตอร์ควรเลือกตามงานที่ได้รับมอบหมายจะดีที่สุดนั่นเอง

6. เครื่องพิมพ์แบบใช้ความร้อน(Thermal Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ทำงานโดยการให้ความร้อนแก่กระดาษโดยไม่ต้องใช้หมึก เช่นแบบที่ใช้ในการพิมพ์ใบเสร็จจากเครื่อง ATM หรือที่เจอกันบ่อยๆก็คือใบเสร็จที่มาจากเครื่อง POS เครื่องแคชเชียร์คิดเงินตามร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้าต่างๆนั่น รวมไปถึงเครื่องคิดเลขแบบตั้งโต๊ะบางประเภท รวมถึงเครื่องโทรสารในสมัยก่อนก็ใช้ระบบการพิมพ์แบบนี้นะ แต่ว่าเราก็ต้องเลือกใช้กระดาษเคมี(บางท่านก็เรียกว่ากระดาษความร้อน) ซึ่งเครื่องในลักษณะนี้ก็มีดีก็คือประหยัดหมึก พิมพ์ได้รวดเร็ว แต่ข้อเสียก็คือข้อความในกระดาษจะเลือนลางได้ง่าย ไม่เหมาะสำหรับเก็บไว้เป็นหลักฐานเพราะว่าเป้ปเดียวก็ซีดซะแล้วนั่นเอง เครื่องพิมพ์ใบเสร็จที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันก็ได้แก่ Epson Nita Prowill เป็นต้น

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น